ไผ่สีสุกเป็นไผ่ขนาดใหญ่ ลำต้นตั้งตรงหรือโค้ง โคนต้นเล็ก กลางลำต้นขยายใหญ่ แล้วเรียวเล็กลงจนถึงปลายลำต้น ผิวลำต้นแข็งและเรียบ ลำต้นอ่อนมีสีเขียวอมเทาและมีนวล ลำต้นแก่สีเขียวเข้ม เมื่อแก่เต็มที่จะค่อยเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มคล้ายเนื้อสุก จากนั้นจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอมเหลือง หากแก่จนแห้งตายจะกลายเป็นสีเหลืองซีด เมื่อแตกหน่อจะแตกชิดกันเป็นกอใหญ่ แตกกิ่งเฉพาะบริเวณโคนต้นและปลายยอด บริเวณข้อกิ่งของโคนมีหนามแหลม 3 อัน หนามอันกลางจะใหญ่ที่สุด กิ่งปลายยอดไม่มีหนาม ใบของไผ่สีสุกจะแตกออกเป็นใบเดี่ยวเรียงเยื้องสลับกกัน 5 – 8 ใบที่ปลายกิ่ง ใบขนาดกลาง ก้านสั้น ขนาดใบกว้างราว 1 – 2 เซนติเมตร ยาว 10 – 20 เซนติเมตร โคนใบสอบเป็นรูปลิ่ม ปลายเรียวแหลม แผ่นใบและขอบเรียบ ใบสีเขียวเข้มและมีขนสากมือปกคลุม ใบแก่หรือใบแห้งมีสีน้ำตาล เมื่อร่วงจะมีสีเหลืองซีด ไผ่สีสุกออกดอกเป็นช่อบริเวณปลายยอดของกิ่งที่แตกบริเวณปลายยอด มีดอกย่อยแตกออกบริเวณแต่ละข้อของปลายช่อ
นิยมปลูกไว้เป็นรั้ว หน่อรับประทานได้ ใบไผ่สีสุกยังใช้เป็นยาขับฟอกโลหิต ระดู ตาของลำไผ่สุมไฟเป็นถ่านกินแก้ร้อนใน กระหายน้ำ รากมีรสกร่อยเฝื่อนเล็กน้อย ใช้เป็นยาขับปัสสาวะและขับระดูได้ ลำของไผ่สีสุกมีความเหนียวทนทาน ใช้ทำเครื่องจักสาน เครื่องเรือนและนั่งร้าน
15-20 เมตร