ไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก ใบประกอบชั้นเดียว เรียงเวียน ก้านใบไม่มีปีก ใบย่อยมี 3–9 ใบ เรียงสลับระนาบเดียว รูปไข่กลับ ยาว 2.5–7 ซม. โคนเบี้ยว ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกสั้น ๆ ตามปลายกิ่ง กลีบเลี้ยง 5 กลีบ เชื่อมติดกันที่โคน รูปไข่หรือรูปขอบขนาน ยาวได้ถึง 2 มม. ติดทน กลีบดอก 5 กลีบ รูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ ยาว 1–2 ซม. เรียงซ้อนเหลื่อม ฐานดอกรูปวงแหวน เกสรเพศผู้ 10 อัน ยาวไม่เท่ากัน ยาวประมาณกึ่งหนึ่งของกลีบดอก รังไข่มี 2–5 ช่อง แต่ละช่องมีออวุล 1–2 เม็ด ก้านเกสรเพศเมียยาวประมาณ 7 มม. ยอดเกสรรูปโล่ ผลสดมีหลายเมล็ด รูปรี ยาว 1–2 ซม. สุกสีแดง มี 1–2 เมล็ด มีขนเหนียวหุ้มสกุล Murraya J. Koenig ex L. มีประมาณ 10 ชนิด ในไทยมี 3–4 ชนิด สำหรับแก้วที่เป็นไม้ประดับมีหลากสายพันธุ์ เช่น แก้วหิมาลัย แก้วแคระ หรือแก้วเวียดนาม ชื่อสกุลตั้งตามนักพฤกษศาสตร์ชาวสวีเดน Johan Andreas Myrray (1740–1791)
รสร้อนเผ็ดขม ขับโลหิตระดูสตรี บำรุงธาตุ แก้จุกเสียดแน่นในท้อง ขับผายลม ใบสดโขลกปั้นใส่ทวารหนักประมาณ 5 นาที ตัวจะร้อนเหมือนเป็นไข้ ขับพยาธิตัวตืด แก้ท้องเสีย กิ่ง และ ใบ ใช้รักษาโรคเอดส์
5-10 เมตร